คลิกที่รูป เพื่อเอาโค้ดรูปนี้ไปแปะ

ยินดีต้อนรับสู่บล็อกของพลอยคะ (นางสาวพลอยไพลิน อาจหาญ คณะศึกษาศาสตร์ เอกการศึกษาปฐมวัย)

วันจันทร์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2556

บันทึกการเรียนครั้งที่ 10



                                      ๑๒ สิงหาคม "วันแม่แห่งชาติ
แม่ คำคำนี้เป็นคำสูง เป็นมงคลแห่งคำอันควรเทิดไว้เหนือบรรดาคำทั้งปวงในภาษาศาสตร์ เป็นคำที่น่าฟัง ไพเราะเสนาะหู มีความหมายในทางชื่นอกชื่นใจ เราจึงเรียกคนที่กำเนิดเรามาว่า แม่เพราะเรียกคำอื่นคงฟังไม่ชื่นใจมากเท่านี้ และคำว่า แม่นี่เองเป็นคำที่เด็กมักจะพูดก่อนคำใดๆ เมื่อเริ่มพูดได้ เด็กต้องพูดคำว่า แม่ก่อน แม้ว่าจะพูดไม่ชัด ออกเสียงเป็น มะ เป็น แมะ อะไรไปก็ได้ แต่จุดหมายของเขาก็คือเรียกคนที่เขารู้จักมาก่อนใครๆ ผู้ที่ใกล้ชิดมากกว่าใคร ผู้เฝ้าดูแลอุ้มชูทะนุถนอมชีวิตน้อยๆในครรภ์มากว่า ๙ เดือน
    ๐ ดอกเอ๋ยดอกมะลิ    ถึงยามผลิกลีบพราวสกาวต้น
  สดสะอาดปราศสีราคีระคน  เหมือนกมลใสสดหมดระคาย
    กลิ่นมะลิหอมกระไรไม่รู้สร่าง  เปรียบได้อย่างรักแท้ไม่แปรหาย
  อันรักแท้แลหัวใจได้บรรยาย ขอเชิญทายหาที่ไหนจากใครเอย

    ๐ใจเอ๋ยใจสะอาด น่าประหลาดใจใครที่ไหนหนา
  จึ่งสะอาดปราศตำหนิเหมือนมัลลิกา ดังใจพระออกจะหาได้ยากครัน
    ใจมนุษย์มักจะดำอำมหิต เพราะมัวคิดโลภรังเกียจคอยเดียดฉันท์
  ในโลกหล้าจะหาได้ที่ไหนกัน เห็นแต่ใจแม่เท่านั้นสะอาดเอย

    ๐รักเอ๋ยรักแท้ รักอะไรของใครแน่ยังสงสัย
 เพราะรักของสาวหนุ่มชุ่มชื่นใจ ก็ยังไม่ดำรงคงเส้นวา
    หรือรักของพี่น้องผองญาติมิตร  รักชีวิตรักชาติศาสนา
  ยังเปลี่ยนแปลงตะแบงบิดฤทธิ์เงินตรา รักของแม่นั่นแลว่ารักแท้เอย

    ๐แม่จ๋า แม่ช่วยตอบปัญหาลูกได้ไหม
  ไยแม่เฝ้ารักลูกผูกหัวใจ ลูกดีชั่วอย่างไรรักไม่คลาย
    หัวใจแม่เป็นไฉนไยผ่องผุด หลั่งรักแท้บริสุทธิ์ไม่ขาดสาย
  เฝ้าพันผูกตั้งแต่ลูกกำเนิดกาย จนลูกตายรักของแม่ไม่แปรเอย
       
จากบทดอกสร้อยแม่จ๋า ของท่านผู้หญิงสมโรจน์ สวัสดิกุล ณ อยุธยา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น